TSP Webboard
TSP Radio
 
1) มาถึงปารีส
 
2) การศึกษา
 
3) สาขาวิชาต่าง ๆ
 
4) เล่าสู่กันฟัง
 
5) กิจกรรมยามว่าง
 
6) มุมน้ำชาในห้องรับแขก
 
7) เที่ยวปารีส
 
8) links
 
   
 

Fashion design Esmod

 
 
ขอบคุณทั้งสองคนที่ช่วยสละเวลา มาแบ่งบันประสพการณ์ เรื่องราวชีวิตและการเรียนในปารีสครับ ข้อมูลบทสัมภาษณ์ยังไม่ครบจะลงส่วนที่เหลือในเร็วๆนี้ครับ

แนะนำตัวสองสาว

เอื้อมชื่อจริง คริมา ทัดศรี Karima Thudsri จบปริญาตรีจากธรรมศาสตร์ คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาออกแบบพัสตราพรณ์ มาเรียนฝรั่งเศสได้ 3 ปีครึ่งแล้วค่ะตอนนี้

ชื่อปุ้ยค่ะ อารียา Areeya Chotisuparach จบจากคณะครุศาสตร์ เอกศิลปะจากจฺุฬาลงกรณ์ อยู่ฝรั่งเศสมา 3 ปีมาพร้อมเอื้อมเลย(หัวเราะ ฮิฮิ ทั้งสองคน)

แรงบันดาลใจให้มาเรียนในสาขานี้

Aum : ตอนที่้เรียนอยู่้เมืองไทยเอื้อมเรียนทางด้าน Textile ใช่ไหมค่ะก็สนใจทางด้านแฟชั่นด้วย ก็รู้สึกว่าถ้าจบมาทางด้านนี้แล้วถ้ามาต่อด้านแฟชั่น มันก็ตรงตามสาขาที่เรียนมาเหมือนกัน ก็เลยอยากจะมาศึกษาต่อทางด้านนี้ด้วย ในที่สุดก็เลยมา (หัวเราะ ตอนจบประ็็โยค)

Pui : ปุ้ยเรียน ครุอาทมันค่อนข้างเรีัยนกว้างเกี่ยวกับศิลปะทุกแขนง ก็เลยคิดว่าจะต่อด้าน design อะไรซักอย่างที่ค่อนข้าง specific ลงไปหน่อย คือมุ่งไปด้านสายอาชีพมากขึ้น ก็เลยเลือกมาทางด้านนี้ค่ะ

Pui : จะว่าชอบไหมตอนแรกๆก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ก็เรียนมาขนาดนี้แล้วก็ถือว่าเป็นงานที่ทำแล้วสนุกดีมีความสุขใช้ได้ (หัวเราะ)

สาขาที่เรียนในประเทศไทย ?

หลังที่เรียนจบแล้วเนี้ยะเอื้อมกับปุ้ยไปลงเรียนคอร์ส Pattern (ปุ้ยเสริม : เรียนเหมือนกัน หัวเราะ) ที่รร สอนตัดเสื้อ พรศรีคะ เรียนอยู่สิบเดือน เราเตรียมตัวก่อนที่้เราจะมาที่นี้กัน ที่พรศรี ก็เริ่มตั้งแต่พื้นฐาน คือไปก็ยังไม่เป็นอะไรเลย ก็เริ่มพื้นฐานทุกอย่างเลย ตั้งแต่การสร้าง Pattern ที่พรศรีจะสอนแบบ เหมือนเราอยากจะทำอะไรเป็น ก็เอาแบบไปให้อาจารย์ดู อาจารยก็จะแนะนำว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง จะเป็นเหมือนการตัดเสื้อตัวต่อตัวมากกว่า

งานประกวด ?

เอื้อมตอนอยู่มหาลัยเคยส่งงานเข้าประกวดเป็นออกแบบ lingerie ของบริษัทิ จินตนา ก็เข้ารอบ 10 คนสุดท้ายเหมือนตอนนั้นจะเป็นครบรอบ 50 ปี จินตนา แล้วเค้ามีประกวดออกแบบชุดชั้นในขึ้นก็เลยลองส่งประกวดดู

เริ่มชอบตั้งแต่ตอนนั้นเลยหรือ ?

Aum : ก็เริ่มชอบ ก็รู้สึกว่าตัวเองก็ทำได้นะ ก็เลยสนใจและอยากพัฒนาตัวเองให้มากขึ้น

Pui : ปุ้ยไม่้เคยส่งประกวดนะ เคยแต่ไปช่วยงานแม่อย่างเดียวเดินซื้อผ้าอะไรอย่างเนี้ยะ แม่ทำีร้า่นขายผ้าด้วย สนุกดีชอบไปเล่น (หัวเราะ)

เริ่มหา รร ศึกษาต่อยังไง ?

Aum : ก็หาข้อมูลเยอะเหมือนกัน จากที่หามาคือดูหลายๆประเทศ ว่าประเทศไหนมี รร ไหนน่าสนใจบ้าง

แล้วประเทศ หลักๆที่ดูมีทีประเทศอะไรบ้าง ?

Aum : ก็มีที่อเมริกา ก็มีของ Depaul ของอะไรอีกหนอ... (ปุ้ยบอกเสริม ของ Parson !) อืมใช่ moderPor คงจะดู รร คล้ายๆกันแหละ(หัวเราะพร้อมกันสองคน) และ รู้สึกว่าจะมีนิทรรศการณ์ศึกษาต่อฝรั่งเศส มี รร ชื่อ mode art มาจัดตั้ง บูธไว้ เราก็ไปสอบถาม เค้าก็ให้ข้อมูล เค้าบอกว่า ตอนนั้นรู้สึกว่า ถ้าเราเข้าเรียนเลยเราไม่จำเป็นต้องเรียน ปีหนึ่ง เพราะว่าเอื้อมกับปุ้ยมีพื้นฐานอยู่แล้ว สามารถเข้าปีสองได้เลย ก็คือส่ง Portfolio ไป และก็ได้ไปติดต่อที่สถานฑูตด้วยว่ามีข้อมูลอะไรให้เราบ้าง และก็เข้าเวปไ์ซท์ลองๆหาดู

ส่วนตัวแล้วรู้สึกว่าประเทศฝรั่งเศสน่าสนใจกว่าอเมริการึเปล่า ?

Aum & Pui : ก็ไม่ใช่นะ แต่ด้วยเหมือนกับว่ากลิ่นอายของแฟชั่นมากกว่า คำว่าเป็นฝรั่งเศสมันดูมีอารมณ์ มีมนต์ขลัง (ปุ้ยบอกเสริม : เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นของแฟชั่น) ก็เลยรู้สึกว่าต้องมาเรียนที่ปารีส มาที่ฝรั่งเศส (หัวเราะทั้งสองคน) และก็เหมือนว่าวัฒนธรรมของฝรั่งเศสเก่าแก่กว่า จริงๆแล้วเป็นเพราะชอบแถบยุโรปมากกว่าด้วย ไ้ม่ค่อยชอบอเมริกาเท่าไร ก็เลยมาทางนี้มากกว่า ส่วนเรื่องเอกสารที่จะมาเรียนก็ไม่ค่อยมีปัญหานะคะ เพราะดูเหมือนว่าได้พี่ที่สถานฑูต เค้าช่วยติดต่อช่วยดูด้านเอกสารให้

การหาที่พัก

Aum & Pui : ที่พักนี้ตอนมาเรามาเรียนภาษากันก่อน ที่ chambery ก่อนเรียนอยู่ สาม เดือนแล้วก็จะเข้า Paris

แล้วหาคอร์สเรียนภาษาได้จากไหน ?

Pui : หาในอินเตอร์เนทตั้งแต่เมืองไทยก่อน แล้วก็พอมาก็ไปเรียน ตอนแรกพวกเราจะไปเรียนกัน 5 เดืิอนเผอิญว่ามีเพื่อนพ่อปุ้ยที่นี้ เลยแนะนำให้มาเรียนที่ Esmode เพราะเป็น รร ที่ก่อตั้งมานานเก่าแก่ อะไรแบบเนี้ยะ เราก็เลย เราก็ยื่นใบสมัครที่ Esmode เลยรีบเข้าปารีสกระทันหัน พี่เค้าก็เลยช่วยหาที่พักให้ จากเพื่อนที่เค้่ารู้จักคนนึง เราก็แวะเข้ามาดูบ้านทีนึง ขึ้นมาปารีสครั้งนึง เข้ามาดูและก็ทำสัญญา และก็ย้ายเข้ามาปารีส

Aum : ตอนมาถึง มีปัญหาด้านภา๊ษาค่อนข้างหนักใช้ได้อยู่ เพราะ้ว่าเค้าจะไม่พูดอังกฤษเลย พวกเราเนียะภาษาฝรั่งเศส แข็งแรงมากถึงมากที่สุด(ล้อเล่น หัวเราะ) ก็มีปัญหาด้านการสื่อสารค่อนข้างสูงแต่ถ้าเรื่องป่วยไม่สบายอะไรอย่างเนียะไม่ค่อยมี

Pui : เราว่าด้านภาษาถ้าเตรียมตัวมาพร้อมก็โอเคนะ สำหรับคนที่เค้าพอมีพื้นฐานบ้างแต่อย่างเรากับเอื้อม พอดีเรียนแค่4 เดือน ก็ได้แค่ซื้อข้าวกินจริงๆ (หัวเราะ) เลยลำบากหน่อยเวลาจะซื้อของ เวลาจะไปที่ไหนก็เดินทางค่อนข้างสะดวกกับ เมโทรในปารีส (เอื้อมเสริม : ถ้าอยากรู้ทางยอมๆหลงสองสามครั้งเอง)

Aum : การหาซื้อของกิน เผอิญโชคดีว่าบ้านเราใกล้ไชน่าทาว์นเลยค่อนข้างสะดวก สำหรับการเรียน เช่นแหล่งซื้อผ้าใหญ่จะอยู่ตรง Sacrée cœur Anvers จะเป็นตลาดผ้าใหญ่ที่สุดของปารีส จะมีตั้งแต่ราคาแพงมากๆ ถึงไม่แพงมาก สามารถหาซื้อได้

Pui : ร้านในฝรั่งเศสค่อนข้าง specific ในการขายของอย่างเช่นร้านนี้ขายผ้าก็จะขายแต่ผ้า ร้านนี้ขายกระดุมก็จะขายแต่กระดุม ร้านขายหนังก็จะขายแต่หนัง เพราะฉนั้นอย่างที่ตรง Sacrée cœur ก็จะเป็นร้านขายผ้าและอุปกรณ์ทั่วๆไป คือหลักๆแล้วหาซื้อที่นี้ได้ แต่ว่าุถ้าต้องการซื้อหนัง อะไรพิเศษก็ต้องไปหาร้านเฉพาะของเค้า ก็จะ รร มีข้อมูลมี list ของร้านต่างๆให้ Internet ก็หาง่าย ข้อมูลที่นี้ค่อนข้างหาง่าย

คิดถึงบ้าน ?

Pui : คิดถึงงงงงง ปีแรกหนีกลับไปสองรอบ (หัวเราะ เอื้อม : เรากลับไปรอบเดียว) แต่เอื้อมกับปุ้ยอยู่ด้วยกันเลยไม่ค่อยเหงามาก ก็เรียนหนักด้วยแล้วก็ท้อใช้ได้อยู่ แล้วก็คิดถึงบ้าน แต่ก็ุถือว่าแม่ส่งมาแล้ว และตัวเองก็อยากมาเองด้วยส่วนหนึ่ง ก็มาแล้วเต็มที่ สู้หน่ิอย

ปัญหาที่ควรระวัง

Pui : จน (หัวเราะ) ปัญหามันก็ไม่ค่้อยเยอะนะเพียงแต่ว่าคนเค้าอาจจะไม่ friendly ทำใจไว้หน่อย(หัวเราะ)

Aum : ยิ่งแบบเราภาษาไม่ได้เนี่ยะ เราก็เปรียบเป็นเหมือนพลเมืิองชั้นสามชั้นสี่ไปเลย ก็เตรียมภาษาให้ดี ให้พร้อมหน่อยจะดีกว่า เพราะลำบากจริงๆ

ข่าวล่าสุดของทั้งสองคน

ตอนนี้เอื้อมกลับไปเมืองไทยเป็นอาจารย์อยู่ที่ธรรมศาสตร์ หลังจากนั้น ตอนนี้ทำงาน เป็น Desginer ให้ CHAP

ส่วนปุ้ยไปเรียนต่อที่ ลอนดอน


เว๊ปไซท์ รร. Esmod : http://www.esmod.com/